การข่มเหงและการเกิดผล
ที่ร้ายกว่านั้นท่านมีความคิดแปลกๆ คือท่านได้คิดจะเผากรุงโรมและคิดจะสร้างใหม่ แต่ประชาชนได้ลุกฮือขึ้นต่อต้าน เพราะความเดือดร้อนที่บ้านเมืองถูกไฟเผา ต่างหนีเอาชีวิตรอดด้วยใจเคียดแค้นและด้วยความเกลียดชัง แต่แล้วกษัตริย์เนโรซึ่งเกลียดชังคริสเตียนอยู่แล้วในช่วงนั้น จึงโยนความผิดให้พวกคริสเตียน โดยอ้างว่าพวกเป็นคนเผา เหตุนี้เองจึงมีการจับคริสเตียนมาลงโทษ โดยจับปล่อยไว้กลางสนามกีฬา แล้วปล่อยสิงโตที่อดอาหารมาหลายๆ สัปดาห์ให้ออกมากัดกิน ท่ามกลางการชมอย่างสนุกสนานของประชาชนชาวโรม คริสเตียนบางคนก็ถูกเผาทั้งเป็นเสมือนเป็นโคมไฟในเวลากลางคืน เพราะการที่ไม่ยอมปฏิเสธว่า พระคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า อาจารย์เปาโลกับท่านเปโตรก็ตายในสมัยกษัตริย์องค์นี้ปกครองแหละครับ
จากจุดนี้เอง จีงสร้างความแปลกใจให้กับประชาชนและที่ราชการของกษัตริย์เนโรมาก เพราะขณะที่คริสเตียนถูกสิงโตกิน พวกเขาเกาะกลุ่มกันร้องเพลงนมัสการสรรเสริญพระเจ้า เสียงเพลงดังก้องไปทั่วสนามกีฬา
ข้อคิดในเรื่องนี้คือ ทุกยุคทุกสมัย คริสเตียนพบกับปัญหาเผชิญกับอุปสรรคและความตายเสมอ แต่ยิ่งถูกข่มเหง คริสตชนผู้เชื่อก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไม่เคยหยุด เช่นกันแม้จะมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นในชีวิตของเรา แต่เสียงสรรเสริญที่เปล่งในจิตวิญญาณของเราไม่ควรดับไป
อย่าให้อุปสรรคปัญหาที่เล็กน้อยมากในสมัยของเรานี้ไม่ถีงกับเลือดตกยางออก หรือต้องชีวิตถีงตาย เหมือนผู้เชื่อในอดีต อย่าให้เราท้อแท้และละทิ้งความเชื่อในพระเจ้าไปเสียเพราะสิ่งที่เราจะได้มีค่าและมีความหมายสูงส่งกว่า ความทุกข์เล็กๆ น้อยๆ ที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้เรา คือชีวิตนิรันด์ ชีวิตที่หมดจากเวรกรรม สันติสุขแท้ที่ไม่เหมือนโลกให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น