วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การช่วยกู้จากพระเจ้าผ่านคนที่คุณมองข้าม

การช่วยกู้จากพระเจ้าผ่านคนที่คุณมองข้าม

จำได้ว่าครั้งหนึ่งขณะลูกชายยังเล็กมาก ประมาณสี่ขวบ ได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ช่วงปีใหม่ ขากลับผมตีตั๋วรถไฟจากเชียงใหม่เพื่อมุ่งกลับสู่กรุงเทพฯ ปรากฎว่ารถไฟเที่ยวที่ผมจองตั๋วไว้เวลาออกจริงๆ 20.40 น. ผมตีตั๋วรถนอนไว้ครับ เพราะลูกชายจะได้นอนสบาย และผมกับภรรยาเมื่อมาถึงกรุงเทพฯก็จะตรงไปทำงานกันเลย

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็จะเกิดขึ้นจนได้ เมื่อมาถึงสถานีเจ้าหน้าที่ประกาศว่า เนื่องจากรถไฟเที่ยวนี้เสีย รถจะมารับตอนตี 2 หมายความว่าทุกคนต้องรออีก 5 ชั่วโมงกับอีก 20 นาที

บางคนก็คืนตั๋วเพราะคงจะหาที่พักหรือโรงแรมแถวๆนั้น ส่วนผมกับภรรยาตัดสินใจรอครับเพราะดึกแล้ว ตอนที่เขาประกาศจะไปไหนก็ไม่ได้ อีกทั้งรถเที่ยวอื่นๆก็เต็มหมด จะไปนั่งทัวร์ก็ต้องรอวันรุ่งขึ้นหรือเครื่องบินก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะนั้นเรารอ จนถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน

ผมตัดสินใจไปถามรายละเอียดจากนายสถานีจึงรู้ว่ารถที่จะนำเราเข้ากรุงเทพฯ ทางอื่นได้ไหม นายสถานีบอกว่าได้ แต่เป็นรถนั่งธรรมดาชั้น 3 และจัดให้เหลือเพียง 3 ตู้เท่านั้น แต่อย่างไรก็ต้องกลับกรุงเทพฯให้ได้ เพราะทั้งผมและภรรยาต่างก็ติดประชุม และหากกลับคืนนี้วันต่อไปก็ไม่มีตั๋วอยู่ดี

ข้างๆ ที่เรานั่งรอรถไฟ มีหญิงคาดว่าเป็นหมอนวด หรือหญิงโสเภณี อยู่ 4-5 คน ที่พากันมาส่งมาม่าซัง หรือแม่เล้า เนื่องจากกริยา คำพูดของพวกเธอบ่งบอกอย่างชัดเจน เมื่อขบวนรถไฟชั้นสาม มาถึงเพื่อรับพวกเรา ท่านคิดดูสิว่าคนที่รอมากมาย เพราะอยากจะกลับกรุงเทพฯ หรือลงตามระยะทางตามจังหวัดต่างๆ มากมาย

เมื่อรถมาจอดที่ชานชลา ปรากฤว่ามีเพียงสามตู้เท่านั้น ผมคิดว่าคงต้องยืนเบียดๆกันทุกคน หรือบางคนอาจต้องไปนั่งบนตู้โบกี้แน่ มันจะพอได้อย่างไรกับผู้โดยสารที่แน่นมากมายขนาดนี้

เมื่อรถไฟจอดปุ๊บ คนหลายร้อยคนต้องแย่งกันขึ้นรถไฟซึ่งมีเพียง 3 ตู้ ต่างก็คาดหวังว่าจะได้นั่ง เพราะเพลียด้วยการอดหลับอดนอนมากันหลายชั่วโมง ผมกับภรรยาก็เก็บข้าวของวิ่งขึ้นรถ แต่ปรากฎว่าช้าไปครับ เมื่อถึงบันไดเราก็ถูกเบียดและผลักจนขึ้นไม่ได้ อีกทั้งมือทั้ง 2 ของเราก็ไม่ว่าง เพราะภรรยาผมต้องอุ้มลูกและผมต้องหิ้วกระเป๋า ทันใดนั้นเองหมอนวดคนหนึ่งก็วิ่งลงจากรถไฟ เพราะพวกเธอไปถึงก่อน มาอุ้มลูกผมไปก่อน ทำให้ภรรยาผมจึงขึ้นไปได้และผู้ชายที่มากับพวกผู้หญิงก็เข้ามาช่วยผมยกกระเป๋าขึ้นไป

เมื่อขึ้นไปบนรถไฟได้แล้ว หมอนวดอีก 3 คนได้นั่งจองที่นั่งให้เรียบร้อยแล้ว พวกเธอลุกขึ้นและให้เรานั่ง 3 พ่อแม่ลูกและพวกเธอก็ลงจากรถไฟไป โดยที่เธอบอกว่าเธอขึ้นมาก่อนเพื่อเตรียมที่สำหรับเรา 3 คนแล้ว

ขอบคุณพระเจ้า ท่ามกลางปัญหา เรายังเห็นพระพรของพระเจ้าที่ทรงให้คนที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า คนที่สังคมประนามดูหมิ่น เป็นหญิงแพศยา เป็นหมอนวด แต่มีน้ำใจช่วยเหลือเรา

ผมกับภรรยาได้รับการหนุนน้ำใจอย่างมากในเหตุการณ์นี้ พระเจ้าทรงจัดเตรียมการช่วยกู้ให้เรา ได้วางแผนการณ์ที่จะช่วยให้เรามีที่นั่ง ผ่านคนที่หลายคนมองค่าไร้คุณค่า หรือรังเกียจ

เหตุนี้เองผมจึงได้เริ่มคิดไตร่ตรองในพระคัมภีร์ว่า ทำไมพระเยซูคริสต์จึงรักและนำความรอด ให้โอกาสสงสาร สนพระทัยหญิงโสเภณี เพราะพระเจ้ามองที่ใจ ไม่ได้มองภายนอก และพระองค์สามารถใช้คนที่จะเป็นพระพร อุปกรณ์ของพระองค์ เพื่อมาช่วยเรา แม้โลกคิดว่าต่ำต้อย ผิดกับพวกฟาริสี ที่คิดว่าตนเองเคร่งครัดบริสุทธิ์ แต่ไร้ความรักความเมตตา

วันนี้เรื่องสำคัญคือ เราจะเปิดรับพระพรของพระเจ้า การช่วยกู้จากพระองค์ผ่านวิธีการ หรือความคิดของเรา หรือ ให้พระองค์นำ ซึ่งมันอาจจะทำไห้คุณคิดไม่ถึง เพราะมันอาจเป็นคนที่คุณมองข้าม เพราะสิ่งที่หูไม่ได้ยิน และตามองไม่เห็นเป็นสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้แก่ผู้ที่รักพระองค์ครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ ทำให้เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ หลายครั้งก็อดนึกไม่ได้ เราเองก็ไม่ต่างกับฟาริสีเลย ตอนที่เรารู้จักพระเยซูครั้งแรกดูธรรม แต่พอนานเข้า ก็รู้สึกว่าตัวเองบริสุทธิ์เกินกว่าจะอยู่ในโลกนี้ น่าขันตัวเองมากพระเยซูไม่เคยคิดอย่างนี้เลย พระองค์อยู่กับเลวี,โสเภณี คนโรคเรื้อน และที่สำคัญพระองค์คือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า พระองค์ไม่เคยเลยแม้แต่ตำหนิคนเหล่านั้นแต่ทรงรักและต้องการช่วยเหลือ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ7 เมษายน 2554 เวลา 21:05

    ประทับใจน้ำใจ+จิตใจหญิงเหล่านั้นค่ะ
    บาปของเราที่ซ่อนอยู่(หยิ่ง)บางทีมันแรงกว่า(งานจำเป็น-อาชีพ)ที่พวกเธอทำ...Papa

    ตอบลบ