วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

คำพูด 7 ประโยคสุดท้ายของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนที่มีผลต่อเรา

คำพูดที่ 1. "พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" มธ.27:46
• นี่เป็นชั่วโมงที่เก้าของพระเยซูและพระองค์ทรงร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง พระองค์ทรงระบายความรู้สึกของพระองค์ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง เมื่อพระเจ้าทรงนำความบาปของโลกนี้ไว้บนกายของพระองค์และเพราะความบาป สกปรก ทั้งหมดทั้งโลก ความโสโครก ความสกปรกมลทินเหล่านั้น ทำให้พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ต้องหันหนีจากพระเยซู เพราะพระเจ้าไม่สามารถทนมองดูได้ ในขณะที่พระเยซูทรงสัมผัสถึงความหนักอึ้งของความบาปที่พระองค์ทรงประสบและทำให้ต้องแยกจากพระเจ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวเท่านั้นในนิรันดร์กาล และนี่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คำ พยากรณ์ที่มีใน สดด.22:1 สำเร็จ

• ผลจากการที่พระเยซูคริสต์ต้องรับความเจ็บปวดและถูกตัดขาดจากพระเจ้า โดยการรับความบาปของเราไปไว้ที่กายของพระองค์ ด้วยเหตุนี้เมื่อเราสารภาพบาปและขอการยกโทษเรามั่นใจว่าพระองค์ทรงกระทำสำเร็จแล้ว พระเจ้าจะไม่หันหน้าไปจากเราอีก เพราะพระเยซูคริสต์ทรงถูกทอดทิ้งไปครั้งหนึ่งแทนเราแล้ว


คำพูดที่ 2 "โอพระบิดาเจ้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร". ลก.23:34
• พระองค์ทรงประกาศการให้อภัยคนเหล่านั้นที่ตรึงพระเยซูที่บนกางเขน พวกเขาไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมดของสิ่งที่พวกเขาได้ทำไป เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์ ถึงแม้ว่าการที่พวกเขาไม่เข้าใจถึงความจริงของพระเจ้า ไม่ได้หมายถึงว่าพวกเขาสมควรได้รับการอภัยโทษ เพราะพวกเขาก็ยังเป็นคนบาปอยู่ดี พระเยซูจึงต้องอธิษฐานเผื่อพวกเขาในขณะที่พวกเขาเยาะเย้ย ล้อเลียนพระองค์ และนี่เป็นภาพของพระคุณของพระเจ้าที่ไม่มีขีดจำกัด แก่ทุกคนในโลกนี้

• ในทำนองเดียวกันพระเยซูคริสต์ทรงอธิษฐานเผื่อเราทุกคนที่ปฎิเสธพระองค์และหันหลังให้พระองค์ หรือทำในสิ่งที่เราไม่สมคสรทำเพียงเรากลับใจใหม่ และหันกลับมาหาพระองค์ อย่าทำให้พระคุณของพระเจ้านั้นเสียเปล่านะครับ

คำพูดที่ 3. "เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม" ลก.23:43
• ภาพในตอนนี้พระเยซูทรงให้ความมั่นใจกับคนที่เป็นโจร อาชญากร บนไม้กางเขนว่าเมื่อเขาตายไปแล้ว เขาจะได้อยู่กับพระเยซูบนสวรรค์ แน่นอน อาชญากรคนนี้ได้รับสิทธิ์อันนี้เพราะว่าเขามีความเชื่อในพระเยซูและรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด (ลก.23:42)

• และท่านลองคิดดูสิว่าแม้ท่านยังไม่เคยฆ่าคนตาย หรือต้องโทษถูกประหารชีวิตที่กางเขน ท่านจงมั่นใจว่าท่านจะรับการอภัย และเข้าสู่สวรรค์อย่างแน่นอน หากท่านประกาศยอมรับ ว่าท่านเป็นคนผิดบาปจริง ๆ ด้วยความจริงใจ สังเกตุดี ๆ นะครับว่า พระเยซูกล่าวว่าเขาจะรอดเพราะความเชื่อของเขา


คำพูดที่ 4. "พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์" ลก.23:46
• พระคริสต์ทรงแสดงถึงความตั้งใจ และเต็มใจของพระเยซูที่มอบจิตวิญญาณของพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดา เป็นการบอกว่าพระองค์กำลังจะตายและพระเจ้าทรงยอมรับเครื่องถวายบูชาของพระองค์แล้ว "พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ผู้ได้ถวายพระองค์เองแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ให้เป็นเครื่องบูชาอันปราศจากตำหนิ" (ฮบ.9:14)

• เป็นคำอธิษฐานที่เป็นแบบอย่างแก่เราว่า เมื่อเรามอบถวายจิตวิญญาณให้พระเจ้า พระองค์ก็ทรงรับไว้และพระองค์ทรงมิได้ดูถูกจิตวิญญาณที่เจ็บปวด ทรมาน ซึ่งเป็นดังเครื่องบูชาแด่พระเจ้าดังนั้น เมื่อท่านระบาย หรือร้องทูลมอบความเจ็บปวดต่อพระเจ้า พระองค์ทรงรับไว้ และทรงไม่ดูถูกเลยแน่นอน

คำพูดที่ 5. "หญิงเอ๋ย จงดูบุตรของท่านเถิด" และ "จงดูมารดาของท่านเถิด"ยน.19:26,27
• สังเกตให้ดีนะครับว่า คำที่พระเยซูตรัสในขณะที่ทรงมองเห็นพระมารดาของพระองค์ยืนอยู่ที่ใกล้ ๆ กับกางเขนพร้อมกับยอห์นสาวกที่พระองค์ทรงรัก และตั้งแต่นั้นยอห์นก็รับเอานางมารีย์มาอยู่ในบ้านของเขา นี่เป็นการแสดงความรักในฐานะที่เป็นลูกคนหนึ่ง ที่ต้องการให้ความมั่นใจว่าแม่ของพระองค์บนโลกนี้ได้รับการดูแลหลังจากที่ลูกตาย ลูกก็ยังห่วงแม่ พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่ไม่สนใจคนในโลกนี้เลย

• พระองค์ทรงสนใจชีวิตการกินอยู่ครอบครัวการดำเนินชีวิตในโลกนี้ของท่าน เพื่อให้มีชัยชนะ และมีเสรีภาพเป็นห่วงคนที่ท่านรัก เป็นห่วงสภาพจิตใจของท่านไม่ใช่เป็นห่วงเฉพาะ เรื่องฝ่ายวิญญาณอย่างเดียว เพราะคำพูดนี้เป็นคำพูดที่บ่งบอกชัดแล้วว่าพระคริสต์ สนใจด้านจิตใจคนที่รักด้วยเช่นกัน


คำพูดที่ 6. "เรากระหายน้ำ"ยน.19:28
• พระ เยซูทรงให้คำเผยวจนะใน สดด.69:21 ที่กล่าวว่า "เขาให้ดีหมีแก่ข้าพระองค์เป็นอาหาร ให้น้ำส้มสายชูแก่ข้าพระองค์ดื่มแก้กระหาย" สำเร็จในตอนนี้ เนื่องจากพระองค์ทรงบอกว่าพระองค์ทรงกระหาย ทำให้ทหารโรมันนำน้ำส้มสายชูมาให้พระองค์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมในการตรึงกางเขน ดังนั้นคำเผยวจนะจึงได้สำเร็จและเป็นจริง

• หิว กระหาย คำเผยวจนะที่เป็นจริง สรุปง่าย ๆ คือ คำเผยและพระสัญญาเป็นจริง สิ่งที่ พระองค์แสดงให้เราเห็นคือความเป็นมนุษย์ของพระองค์ ว่าทรงหิวกระหาย เหมือนเรา ๆท่าน ๆ ดังนั้น พระองค์ก็จะไม่ทอดทิ้งเราให้ขาดสิ่งจำเป็น อาหาร เพียงแต่แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก่อน และพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้ครับ (มธ6;33)

คำพูดที่ 7. "สำเร็จแล้ว"ยน.19:30
• ประโยคแห่งประวัติศาสตร์โลก เป็นคำพูดสุดท้ายของพระเยซู ซึ่งแสดงว่าการทนทุกข์ของพระองค์จบลงแล้ว และงานทั้งสิ้นที่พระบิดาทรงมอบให้พระองค์ทรงกระทำเสร็จสิ้นลงแล้ว คือ การเทศนาสั่งสอนเรื่องข่าวประเสริฐ การทำหมายสำคัญและการนำความรอดมาให้แก่คนที่เชื่อวางใจในพระองค์ หนี้บาปทั้งสิ้นได้รับการจ่ายราคาแล้ว

• ตั้งแต่นี้ไปทุกสิ่งที่ทรงทำจะมีผลต่อเราทุกคนที่เชื่อ พระสัญญาทั้งสิ้น คำเผยวจนะ หรือ สิ่งที่ทรงตรัสจะเป็นจริง สิ่งที่สอนจะเกิดผลจะเกิดขึ้น เพราะที่กางเขนทุกสิ่งได้สำเร็จแล้ว เพียงท่านรับเอาด้วยความเชื่อ เพราะมันสำเร็จจริง ๆ เมื่อสองพันปีที่ผ่านมา หากเรามีความเชื่อเช่นนี้ เราก็รับด้วยการปฎิบัติทำตามที่เชื่อเท่านั้นเองครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น