วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552

หมวดการบำบัด - ตอนที่ 9:การตัดสินผู้อื่น

การตัดสินผู้อื่น

"อย่ากล่าวโทษเขา เพื่อพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน เพราะว่าท่านทั้งหลายจะกล่าวโทษเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงกล่าวโทษท่านอย่างนั้น และท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะได้ทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น” (มธ.7:1-2)

การพิพากษา แตกต่างกับ การตัดสินอย่างไร? การพิพากษา เป็นการกล่าวถึงเรื่องที่เราไม่คำนึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง และรวบรวมความผิดทั้งหมด ส่วนการตัดสิน คือ แทนที่จะตัดสิน การกระทำของคนนั้นกลับตัดสินคนนั้น ครับ

“เราสามารถตัดสินเพื่อนของเราได้ ว่าเขาขับรถดีหรือไม่ดี เมื่อเรานั่งรถของเขา เราสามารถตัดสินความน่าเชื่อถือทางธุรกิจได้ เราตัดสินซึ่งกันและกันตลอดเวลาในแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ ความเป็นมิตร การคบหากัน การแข่งขัน การทำธุรกิจ การตัดสินที่มาจากหัวใจที่มีความเข้าใจและความรัก ความเห็นอกเห็นใจคนอื่นไม่ได้รวมอยู่ในกฎข้อนี้ เปาโลกล่าวว่า เราจะตัดสินโลกนี้ และแม้แต่ทูตสวรรค์ด้วย

แต่เมื่อเราตัดสินคนอื่นด้วยหัวใจที่ไม่บริสุทธิ์ การต่อว่า แช่งสาป โกรธ เกลียด อิจฉา หรือความแค้น เราก็นำตัวเราเข้าสู่กฎข้อนี้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินพ่อแม่ ด้วยหัวใจที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นการไม่ให้เกียรติ ดังนั้น เราจึงตกอยู่ภายใต้กฎทั้งสองข้อพร้อม ๆ กัน และการตัดสินจะตกมาถึงเราเอง และชีวิตของเราก็จะไม่ได้ไปดีมาดี” (จากบทความของ John Sandford )

การตัดสิน เราควรตัดสินที่การกระทำ เช่นคุณทำงานไม่เสร็จเพราะอะไร แต่ไม่ใช่คุณทำอะไรไม่เคยสำเร็จเลย หรือ คุณเป็นคนทำงานไม่สำเร็จ เป้าหมายการตำหนิตอนนี้ ไม่ใช่งานที่ไม่เสร็จ แต่อยู่ที่คนไม่ดีแล้วครับ

กล่าวการตัดสินถึงอดีตและอนาคต พยากรณ์ว่าเขาจะทำอย่างนั้นอีก เพราะเขาทำไม่เสร็จครั้งนี้ ก็รวมการพิพากษาและการตัดสินไปด้วย อย่างบทความของจอห์นที่กล่าวว่า เราตัดสินการประพฤติที่ลบจนเป็นนิสัยของเขา ที่เราต้องระวังได้ แต่หากเราตัดสินด้วยอารมณ์ อคติ จิตใจไม่บริสุทธิ์ จากสิ่งที่ดีจากเรา กลายเป็นการตัดสินที่ลบออกไป จะทำให้เรารับผลจากการตัดสินนั้น เพรา หลักความเชื่อของคริสตชนเชื่อว่าเราตัดสินผู้อื่นอย่างไร พระเจ้าก็จะตัดสินเราเช่นนั้น

ทั้งโลกหน้า โลกนี้ สิ่งที่เราจะได้รับ คือ หากเราตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมและไม่บริสุทธิ์ใจ เราก็จะขาดมิตร และความศรัทธา ความเกรงใจ หรือ ยามเราผิดพลาด ผลที่เราจะได้รับคือคนที่มีชีวิตอยู่ก็จะตัดสินเราเช่นนั้น ดังที่เราตัดสินเขาด้วยความไม่ยุติธรรม แม้ทางด้านคริสตชนจะสอนให้ ทุกคนให้อภัยและยกโทษ ในทำนองเดียวกัน สวรรค์ยุติธรรม เพราะพระเจ้าทรงยุติธรรมแยกคนดีคนชั่ว แต่ละเรื่องแต่ละเหตุการณ์ เมื่อเหตุการณ์ของการตัดสินเกิดขึ้น กฎการเก็บเกี่ยวก็จะถูกนำมาใช้ในชีวิตของเราเช่นกัน เพราะไม่มีใคร หลีกพ้นกฎนี้ได้ คือ การตัดสิน อันยุติธรรมจากพระเจ้า

สิ่งเดียวที่จะช่วยเราได้คือ สารภาพบาปและกลับใจใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ เลิกตัดสินผู้อื่นด้วยใจอคติ อารมณ์และความไม่ยุติธรรม เพื่อพระเจ้าจะทรงประทานความยุติธรรมให้แก่ท่าน ยามที่มีผู้ตัดสินท่านอย่างไร้ความยุติธรรมครับ

สภษ 15:8 เครื่องสักการะบูชาของคนชั่วร้ายเป็นที่น่าเกลียดน่าชังแก่พระเจ้า แต่คำอธิษฐานของคนเที่ยงธรรมเป็นที่ปีติยินดีแก่พระองค์

สภษ15:29 พระเจ้าทรงอยู่ห่างไกลจากคนชั่วร้าย แต่พระองค์ทรงได้ยินคำอธิษฐานของคนชอบธรรม

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 กันยายน 2552 เวลา 16:50

    เป็นบทความที่ดี ชัดเจน และเข้าใจง่ายค่ะ

    หลายครั้งที่เรามักตัดสินผู้อื่นจากประสบการณ์ที่ตนได้พบเจอในอดีต(Stereotype others) ดังนั้นเราจึงมักตัดสินผู้อื่นก่อนที่จะใช้วิจารณญาณที่มาจากพระเจ้า ซึ่งเป็นที่สังเกตุได้ว่าเรามักจะใช้ความรู้สึกในการตัดสินผู้อื่นโดยไม่รู้ต้วว่าเรากำลังใช้ความอยุติธรรมเข้าแก้ไข (และมักคิดว่าตนนั้นเข้าใจบุคคลนั้นๆได้อย่างถูกต้องแล้ว--ในสายตาของตัวเอง ไม่ใช่การรับรู้ที่มาจากพระเจ้า) อย่างภาษิตฝรั่งมักพูดว่า Don't judge the book by its cover!

    ตอบลบ