วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หมวดการบำบัด-ตอนที่ 20 วินัยใหม่ พลังความคิด ตอนความรู้สู้ปัญญาไม่ได้

วินัยใหม่ พลังความคิด
ตอนความรู้สู้ปัญญาไม่ได้

ความคิดของเราก็เหมือนกล่องเปล่า ๆ เล็ก ๆ หากเราเอาทรายใส่ลงไปในกล่อง แล้วเทน้ำลงไปในกล่องทราย น้ำก็จะซึมลงและหายไป หากเราวางรากฐานโดยเอาดินเหนียวใส่ลงไปในกล่อง เวลาเอาน้ำเทลงไปมันก็จะจับตัวเป็นก้อน เอามานวดปั้นเป็นรูปอะไรก็ได้ เพราะดินเหนียวจะทำปฎิกริยากับน้ำทำให้แข็งตัวเหมือนกัน หากเราเอากรวดใส่ในกล่องนั้น เวลาเทน้ำลงไปน้ำก็จะแยกกรวดกับน้ำไม่ผสมผสานกันได้ เพราะมันเป็นสะสารคนละชนิดกัน

หากความคิดเราเป็นทรายละเอียดอ่อน หากมีเรื่องราวอะไรที่ดีและไม่ดีมา มันก็ซึมเข้าไปในความคิดหมด เราก็รับไปหมด สุดท้ายก็วุ่นวาย แต่หากเราเอาดินเหนียวใส่ เมื่อเจอน้ำก็เกิดการผสมผสานกันปั้นเป็นรูปทรงอะไรสักอย่างก็ได้ หรือหากเป็นหินก็ต่างก็อยู่กันในกล่องแต่ไม่เกิดประโยชน์ออะไรเลย ต่างก็เป็นขยะที่รกสมองรกความคิดทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้เอง เราต้องมีฐานข้อมูลที่ดีใส่ลงไปในสมอง สิ่งนั้นก็คือความรู้และปัญญา (ดินเหนียว)

ความรู้ต่างกับปัญญาอย่างไร? หลายคนมีความรู้ท่องได้ อ่านแล้วมาหลายตำราหลายเล่ม หลายสัมนา รอบรู้หมด แต่คนมีปัญญาคือ สามารถนำความรู้มาประยุกต์ ใช้ นำไปปฎิบัติได้อย่างช่ำชอง พลิกแพลงให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันและช่วยเหลือผู้อื่น คนมีความรู้อ้างอิงตำราต่าง ๆ ได้ แต่คนมีปัญญาประยุกต์วิธีการนำไปใช้ได้ ก็คือคนมีความรู้คือความฉลาดอยู่ที่สมอง แต่คนมีปัญญาคือคนมีความเฉลียวมีไหวพริบ อยู่ที่เซนส์และประสบการณ์

แต่ความรู้กับปัญญาต้องไปด้วยกัน บางคนมีปัญญาช่างคิด เก่งเรื่องคิด แต่ไม่มีฐานข้อมูลในเรื่องความรู้ ก็คิดได้ตามปัญญาแคบ ๆ บางคนมีความรู้มากแต่ไม่มีการใช้ปัญญา ก็ได้ใช้ความรู้อย่างแคบ ๆ เหมือนกัน สรุปคือเราจะมีปัญญามากแค่ไหนก็เท่ากับฐานความรู้มากด้วยครับ

เราจำเป็นต้องมีความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ความเข้าใจทางความเชื่อในชีวิตคริสเตียนที่ถูกต้อง ความรู้เรื่องพระเจ้า จริยธรรมจากพระคัมภีร์ไบเบิล ผ่านทางคำสอนของผู้นำคริสตจักรในวันอาทิตย์ ผ่านทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องที่ง่ายดาย จงแสวงหาเพราะอยู่ที่ใจของเราต่างหากจะหิวกระหายมากน้อยแค่ไหน เพราะในความคิดของเรา จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลความรู้ที่ถูกที่สุด คือ พระคำพระเจ้าครับ

“สภษ18: 15 ใจที่มีความคิดย่อมหาความรู้ และหูของปราชญ์แสวงความรู้.”

การแสวงหาปัญญาเพื่อความกระจ่าง ความเข้าใจในความรู้ หลายคนมีความรู้แต่ไม่มีปัญญา แล้วเราจะมีปัญญาได้อย่างไร

การมีปัญญาเกิดขึ้นจากการเอาความรู้ขยายความรู้เอาความรู้จากที่มีมาขยายความรู้จากอีกที่ที่รับ หรือจากการได้ฟังพูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์ ผู้ที่เคยทำปฎิบัติมาก่อน หรือเกิดจากประสบการณ์ของเราเอง ที่ได้พบ สะสมมาก ๆ ยิ่งขึ้น จนเกิดจากความเข้าใจ ดังนั้น เราจะให้ความรู้งอกงามจนเป็นปัญญาได้นั้น มีปัจจัยหลายทางครับ ส่วนสำคัญที่สุดคือการฟัง การได้ทำ และการได้เรียนจากผู้รู้ที่รู้มากกว่า

สภษ 14: 33 ปัญญาอาศัยอยู่ในความคิดของคนที่มีความเข้าใจแต่ปัญญานั้นไม่ประจักษ์ในใจของคนโง่

สภษ18: 2 คนโง่ไม่เพลิดเพลินในความเข้าใจ แต่เพลิดเพลินในการแสดงความคิดเห็นของตนเท่านั้น

เมื่อเรามีฐานข้อมูลทางความคิดแล้ว คือ ความรู้และปัญญา ตอนนี้เมื่อเราคิดอะไร ก็เป็นความคิดที่มาจากปัญญา เราก็จะมีความคิดที่ไร้ความสับสนวุ่นวาย ไร้ไวรัส ไร้ความมืด ความสกปรก และความไม่สงบ เพราะเรารู้ว่าอะไรคือพิษในความคิด อะไรคืออาหาร อะไรคือสิ่งที่ควรคิดเพื่อชัยชนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น