วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หมวดเยียวยาปลดปล่อย-ตอนที่ 3 จะจัดการรากของแผลได้อย่างไร

หมวดเยียวยาปลดปล่อย ตอนจะจัดการรากของแผลได้อย่างไร

ตัวอย่าง เด็กที่เสพย์ติด

การจัดการกับบาดแผล เราต้องเข้าใจก่อนว่ามีรากก็ย่อมมีผล ทุกอย่างเกิดจากต้นตอคือราก หากเราจะจัดการกับต้นวัชพืชที่สกปรกในหน้าบ้านของเรา เราไม่ควรเอามีดฟันในส่วนของวัชพืชที่โผล่ออกมา หากเราต้องการจะจัดการกับมันอย่างราบคาบ เราต้องขุดรากมันออกมาและเอาไปเผาไฟครับ ไม่ใช่เอาไปฝังดินใหม่ เพราะมันอาจจะออกรากฝอยและรากแขนงเจริญเติบโตจนเป็นต้นใหม่ได้


บาดแผลของเราก็เช่นกัน ส่วนนี้อยากหนุนใจผู้ให้คำปรึกษาในการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่มี บาดแผลหรือด้านบุคลิกภาพว่าเราต้องจัดการที่รากครับ ส่วนใหญ่เราจะตำหนิ ว่ากล่าวตักเตือน ลงวินัย แก่ผู้ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สิ่งที่เขาแสดงอยู่เป็นประจำนั้นอยู่ที่ราก ผมจะยกตัวอย่างให้เห็น เด็กคนหนึ่งที่ได้รับการเยียวยา ครั้งแรกเขาติดเหล้ามาก เราเลยสร้างวินัยใหม่แก่เขา เข้มงวดกับเขา พร้อมให้ความรักอย่างเต็มที่ ปรากฎว่าเขาดีขึ้นระยะหนึ่ง ต่อมาเรามารู้ว่าเด็กคนนี้เลิกเหล้า แต่แอบไปสูบบุหรี่และสูบจัดมาก เราก็เริ่มทำแบบเดียวกันเขาก็เลิกบุหรี่ แต่เขาแอบไปเล่นการพนันในสลัมที่เขาอยู่โดยเราไม่รู้มาก่อน จุดนี้จะเห็นได้ว่า จริง ๆ ต้องมีอะไรบางอย่างในจิตใจเด็กคนนั้นแน่ และเรามาพบอีกว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเราเด็กคนนี้พยายามทำตัวให้เป็นคนดีไม่เสพย์ติดสิ่งทั้งปวง แต่ว่าลับหลังเขาแอบไปทำ เราพบว่าที่ผ่านมาเราแก้ที่ผลแต่ไม่ได้จัดการที่รากจริง ๆ


รากของเด็กคนนี้คืออะไร? เราจึงใช้เวลาคุย เปิดเผยให้ความรักกับเด็กวัยรุ่นคนนี้ เราพบว่าจริง ๆแล้วเวลาที่เขาอยากไปเสพย์ติดสิ่งเหล่านี้ คือเวลาที่เขาเหงา ความเหงาหรือรากมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร? จากการทำการเยียวยาสอบถามวิถีชีวิตในวัยเด็กคือเด็กคนนี้ไม่มีพ่อแม่ที่ให้ความอบอุ่น สัมผัส ชมเชย หรือแสดงความรัก และสังคมที่เขาอยู่คือสลัม เมื่อเขารู้สึกว่าเขาต้องการที่จะหาอะไรมาชดเชยความเหงาได้ เขาก็จะหาอะไรเสพย์ติดเพื่อชดเชยอารมณ์นั้นไป และเราก็พบจุดที่ต้องช่วยเหลือเด็กคนนี้จริง ๆ คือ ท้าทายเขาให้กล้าจะมีชีวิตใหม่ หาจุดชดเชยใหม่ โดยการให้เขาทำบางสิ่งและผู้ทำการบำบัดก็หาผู้ใหญ่ที่อดทน มีความรัก แสดงความรักแก่เด็กคนนี้อย่างเหมาะสมเพื่อชดเชยวัยเด็ก โดยเฉพาะพลังกลุ่มที่จะช่วยกันมอบไมตรีจิตและแสดงความรักอย่างเหมาะสม และที่สำคัญที่สุด คือ ให้เขารู้จักความรักของพระเยซูคริสต์ที่เขาสามารถรับได้ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมากกว่าความรักของมนุษย์ เป็นความรักที่เหนือจะบรรยายได้ เราต้องท้าทายและสอนเด็กคนนี้ให้ได้รับและรู้จักกับความรักของพระเจ้าวันต่อวัน ผ่านการสั่งสอน ผ่านชีวิตที่สัมพันธ์กับพระเจ้าครับ


จากเรื่องของเด็กคนนี้ เราคงเห็นแล้วว่าเราต้องหาสาเหตุของพฤติกรรมนั้นและทำความเข้าใจก่อน เพื่อจะจัดการรากที่แท้จริง ซึ่งมีเรื่องตัวอย่างมากมายครับ แล้วเราจะกล่าวในตอนอื่น ๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องการเปลี่ยน และความรักของพระเจ้าเข้ามาชดเชยทดแทนได้ทั้งหมด โดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดที่แก้ไม่ได้ครับ เพราะพระองค์ทำได้ทุกสิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น